วางแผนการผ่อนค่างวดสินเชื่อรถต้องเริ่มต้นจากอะไร
1 ในการผ่อนรถกับธนาคารอย่างแรกจะต้องดูถึงความสามารถในการผ่อนต่อละเดือนก่อนว่า ตัวเรามีกำลังผ่อนรถกับธนาคารได้ต่อเดือนอยู่ที่เท่าไรที่ไม่อึดอัด ผ่อนรถกับธนาคารแบบสบาย (ประมาณ40-60%ของรายได้หรือเงินเดือน)
2 กำหนดว่าที่จะต้องผ่อนรถกับธนาคารให้สอดคล้องกับวันที่เงินเดือนออก หลายคนมองข้ามวันกำหนดผ่อนรถกับธนาคารไปเลยทำให้เกิดปัญหาในการผ่อนค่างวดสินเชื่อรถล่าช้า ส่งผลให้ประวัติในการผ่อนชำระสินเชื่อไม่ตรง ดังนั้นก่อนการทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ควรสอบถามทางเจ้าหน้าที่สินเชื่อรถยนต์ก่อนว่าเลือกวันผ่อนค่างวดสินเชื่อรถยนต์ได้หรือเปล่า จะได้วางแผนในการผ่อนค่างวดสินเชื่อรถยนต์ได้ถูก
3 เช็กข้อมูลช่องทางในการชำระค่างวดสินเชื่อรถยนต์ว่า ชำระในช่องทางไหนไม่มีค่าธรรมเนียม ช่องทางไหนจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเท่าไรต่อหนึ่งบิล
4 เมื่อมีการจ่ายล่าช้าหรือการค้างค่างวดมากกว่า1งวดแล้ว จะต้องเช็กยอดจำนวนเงินที่ต้องชำระพร้อมดอกเบี้ยและค่าปรับให้เรียบร้อยเพราะในการที่เราไม่ชำระดอกเบี้ยและค่าปรับให้เรียบร้อยจ่ายเพียงแต่จำนวนค่างวดสินเชื่อรถยนต์แล้วล่ะก็สถานะในการผ่อนชำระค่างวดสินเชื่อรถยนต์อาจจะแสดงโชว์ว่าเรายังค้างจ่ายอยู่ก็เป็นได้ ทางที่ดีควรจะสอบถามทางธนาคารว่าเราจะต้องจ่ายเท่าไรถึงจะเป็นสถานะปกติเป็นการดีที่สุด จะได้ไม่เป็นปัญหาคาใจในเรื่องค่าปรับตามมาทีหลัง
5 ในการผ่อนรถกับธนาคารนั้นถ้าดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ไม่ใช่แบบลดต้นลดดอกเบี้ยแล้ว สมควรที่จะต้องชำระตามจำนวนค่างวดสินเชื่อรถยนต์ที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ชำระให้พอดีไม่ขาดไม่เกิน ถ้ามีเงินสดเยอะจะจ่าย 3 - 4 งวดในคราวเดียวก็ไม่มีใครว่าแต่ว่าถ้าเลยงวดที่จ่ายเกินไปแล้วเกิดลืมไปจ่ายค่างวดสินเชื่อรถยนต์ ทางธนาคารก็นับว่าคุณจ่ายล่าช้าหรือค้างค่างวดสินเชื่อก็จะถูกค่าปรับนะจ๊ะ ทางที่ดีจ่ายเท่าที่จ่ายและไม่จ่ายเลยวันที่กำหนดจ่ายค่างวดสินเชื่อรถยนต์ล่ะกัน
วางแผนในการผ่อนรถกับธนาคารให้ดีแล้ว รับรองผ่อนค่างวดสินเชื่อรถยนต์จนครบและได้ของแถมมาเป็นประวัติเครดิตในการชำระสินเชื่อที่ดีติดตัวอีกตะหาก